“เลิกทาสไอที สงครามครั้งสุดท้าย”
หลาย ๆ บทความที่ผ่านมา ที่เราพาท่านเริ่มต้นและจบลงเหมือนจะกลั้นหายใจแล้วกระโดดหน้าผาดิ่งพสุธาอะไรประมาณนั้น แต่แล้วก็ต้องตื่นจากฝันขยี้ตาเบา ๆ เอ๊ะนี่ฝันไป และดูๆ เหมือนจะไปไม่ถึงสวรรค์ซักกะที
มีผู้ติดตามอ่านบางท่านติชมเราแรงส์ๆ ว่า ทำไมมันเยิ่นเย้อ ไม่ไคลแม็กซ์ ซะที ฝันลมๆ แล้ง ๆ ตลอด จะลงทุนด้วยก็ไม่กล้า
ใช่ครับ เราไม่รีบร้อนเรื่องเงิน และเพราะความจริงที่พวกเราได้ค่อย ๆ ถ่ายทอดออกมานั้น เพราะมันไม่ใช่ฝันที่เราจะเดินทางไปสู่ฝั่งได้ในพริบตา
เพราะ ในชีวิตจริง ธุรกิจจริง ๆ ไม่มีความสำเร็จใด ๆ ที่จะได้มาโดยบังเอิญเลย ล้วนต้องเจ็บปวด ต้องอาศัยปัจจัย ความพยาบามและความพร้อมต่าง ๆ มากมาย
แม้นสถาปนิกเก่ง ๆ ยังต้องใช้เวลา ต้องการบรรยากาศในการบิวท์อารมณ์ ก่อนจะสร้างผลงานดีๆ ออกมา และยังต้องใช้เวลาอีกพอควรแม้นว่าจะตกผลึกความคิดไอเดียปิ๊ง ๆ เพื่อประดิษฐ์งานชิ้นเอกได้แล้ว
“5G” คือ จุดเริ่มต้นของยุคดิจิทัลใหม่อย่างสมบูรณ์ที่สุด กล่าวคือ ความเร็วและประสิทธิภาพ จะช่วยให้งานใหญ่ๆ ยาก ๆ บรรจุและติดตั้งปฏิบัติการได้สำเร็จในเครื่องอิเลกทรอนิกส์เล็ก ๆ และจะเป็นสิ่งเสริมให้งานแอพพลิเคชั่นในระดับแพลตฟอร์มเกิดขึ้นได้อย่างมีความเชื่อมั่น เติบโตรวดเร็วและปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน
งานของสมองไทยแลนด์ ได้ก้าวเดินมายาวนาน มีร่องรอย มีการออกแบบ สร้างสิ่งแวดล้อม ปัจจัยที่จำเป็นไว้ก่อนอย่างพร้อมสรรพ ผมยกตัวอย่างเช่นว่า ในการสร้างแพลตฟอร์ม 1 ระบบ จำเป็นจะต้องมีพื้นที่สำหรับเฟสการเดินเรื่องต่าง ๆ กัน เช่น
- การเตรียมพื้นที่ออนไลน์เวบไซต์ทำงานสำหรับโปรแกรมเมอร์ที่จะเป็นคู่มือการผลิต (ที่จะต้องรองรับนักพัฒนาจำนวนมาก มาทำงานต่อเนื่องการรุ่นต่อรุ่น เป็นเวอร์ชั่น ที่ยากที่ใครจะจดจำไว้ในสมอง และนี่คือมาตรฐานการทำงาน)
- เราเตรียมเวบไซต์คู่มือออนไลน์สำหรับผู้ใช้งานเหมือนแพลตฟอร์มระดับโลกทั้งสอง และจะเป็นทางเข้าสำหรับเวบแอพพลิเคชั่น
- และเราเตรียมเวบไซต์ออนไลน์สำหรับผู้ดูแลแพลตฟอร์ม ซึ่งหมายถึง ลูกค้า องค์กร ที่จะมาบริหารธุรกิจบนแพลตฟอร์มที่ร้องขอให้พัฒนาต่อยอดในอนาคต
ในด้านเทคนิคการพัฒนาแพลตฟอร์ม เรามุ่งเน้นไปที่การออกแบบโครงสร้างและโมเดลทางธุรกิจมากกว่าการลงมือพัฒนาโค้ด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรามีโซลูชั่นเรื่องโค้ดอย่างชัดเจน และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นการจะสร้างความมั่นใจและเตรียมความพร้อมให้กับลูกค้าระดับเจ้าของแพลตฟอร์ม (Platform Operator) ที่จะต้องบริหารธุรกิจเชิงปฏิบัติการหรือ Operation Management ได้อย่างเป็นเนื้อเดียวกันกับซอฟต์แวร์ และประสพความสำเร็จอย่างแท้จริง
การออกแบบแพลตฟอร์ม จึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการออกแบบสถาปัตยกรรมโครงสร้างฐานข้อมูลหลายระดับ ทั้งความลึก ความกว้าง ที่มีความเป็น Microservices และรองรับ Blockchain พร้อมการเข้าออกประตูระบบด้วย API อีกชั้นหนึ่ง
เหล่านี้คือ สิ่งที่ผู้ให้บริการพัฒนาระบบทั่วไปไม่ได้คิดไปถึง เพราะระบบเหล่านั้นเป็นเพียงระบบขนาดเล็ก ไม่มีบูรณาการกับระบบอื่น ๆ หรือจะเรียกว่าระบบไม่มีการเจริญเติบโต หรือจะเรียกว่า “ไม้ล้มลุก” ก็ได้
หลาย ๆ StartUp ที่ไปต่อไม่ได้ เพราะไม่มี Dev หรือหมดตัวกับการเริ่มต้น Dev-Ops หรือ Scale ไม่ได้ หรือหาคนร่วมลงทุนจริง ๆ ไม่ได้ เพราะโมเดลธุรกิจมันไม่ใช่ตั้งแต่ต้น
หลาย ๆ StartUp ที่ฟังดูดี แต่เหมือนจะมีการระดมทุนอยู่บ่อย ๆ ประมาณว่าทำเพื่อขาย หรือไม่ก็มีผลประกอบการที่ไม่สวยงาม ผมว่าคนจะลงทุนซื้อเขาก็ไม่โง่นะ จึงเข้าทำนองว่าทำได้แค่แหกตาชาวบ้าน ปลุกกระแส StartUp ให้แตกตื่น จบลงตรงที่ ใครมาทางไหนก็กลับไปทางนั้นแถมหมดตูดอีกตะหาก
ดูเหมือนจะมืดมน หมดหนทางจริง ๆ ที่จะให้ Tech StartUp ของไทยเดินไปได้
Tech StartUp ของไทยจึงยังต้องเป็นลูกมือ เป็น “ทาสไอที” “ทาสเครื่องมือ” “ทาส ดิจิทัล” ไปอีกยาวนาน
บทความนี้ผมเขียนขึ้นเนื่องในโอกาส วันสำคัญ วันปิยะมหาราช พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงบุกเบิกและพัฒนาระบบสื่อสาร คมนาคม เทคโนโลยีต่าง ๆ ของไทย และทรงเป็นผู้ประกาศปลดเปลื้อง ระบบทาสไว้ในสมัยของพระองค์
วันนี้ “เราจะเลิกเป็นทาสไอทีกันอย่างไร” หรืออย่างน้อย เราจะแข่งขันกับชาวโลกได้อย่างไร
ทาสไอทีฟังดูเป็น “วาทะกรรมดิจิทัล” อีกแล้ว ผมคิดออกเมื่อวันวานนี้นี่เอง แต่จะแก้ออกอย่างไรนี่ซิท้าทายกว่า
แต่ผมกล้าพูดว่า อย่างน้อยเราจะทำให้คนไทย และชาวโลกได้เห็นว่า เรามี “สติตื่นรู้ สติดิจิทัล” แล้ว และสร้างบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญมาก ๆ ผมมีภาพสวยๆ จาก Internet มาแชร์ เขาว่าด้วยรูปแบบของ Blockchain ที่นำมาใช้กับการ Tracking สินทรัพย์ ในแวดวง Fintech
และอีกภาพคือ สถาปัตยกรรม การออกแบบโครงสร้างงาน และฐานข้อมูลทั้งทางกว้างและทางลึก และความเหมือนที่เข้ากันได้ (Applicability) กับเรื่อง Blockchain
ลองพิจารณาดูนะครับว่า ในทุก ๆ ระบบงาน มีสิ่งที่เหมือนกันอย่างไร และมีสิ่งที่ต่างกันอย่างไร
หรืออาจจะลองคิดดูว่า ร้านค้าธุรกิจต่าง ๆ ที่แตกต่างกันที่หน้าร้าน แต่ระบบจัดการภายในเหมือนกันอย่างไร
นี่แหละครับตัวอย่างสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์ม ที่พร้อมจะ “แปลงกายสยายปีก” โดยมีคุณสมบัติพันธุกรรมเดียวกัน พร้อมเติบโตและแข็งแรงปลอดภัย
….. ดูเหมือนบทความนี้จะจบลงแค่การขายฝันอีกครั้ง
ปล่าวเลยครับ นี่เป็นการแง้ม การปล่อยข่าว การประกาศตัวสงครามไอทีครั้งสุดท้ายต่างหาก ที่จะต้องไม่ผิดพลาด แต่จะเดินหน้าสำเร็จเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้คนจริง ๆ พร้อมๆ ไปกับการสร้างงานนับแสนนับล้านตำแหน่ง และอาจจะเป็นการประกาศเลิกทาสไอทีกันเลยทีเดียว เหลือจากนั้นก็เป็นความสมัครใจของผู้คนเอง ว่าจะเป็นอยู่อย่างนี้สืบไป หรือจะปลดเปลื้องพันธนาการ แล้วเดินหน้าด้วยจินตนาการที่เสริมพลังด้วย Samong Platform & iSTEE Framework
นับถอยหลังหลักเดือนเท่านั้น กับ ปรากฏการณ์ “เลิกทาสไอที สงครามครั้งสุดท้าย”
โอกาสการร่วมเดินทางมีได้หลากหลาย ทั้งการเป็นนักพัฒนาร่วมฯ นักลงทุน ผู้ถือหุ้น และเจ้าของแพลตฟอร์มที่ออกแบบเติมสีตีเส้นตามใจของท่าน
กดไลก์ กดเพจ กดแชร์ รอๆ กันได้เลยครับ
เจอกันในบทความหน้านะครับ ขอบคุณครับ
14129total visits,2visits today