สมดุลแห่งชีวิต
สำหรับท่านผู้ติดตามเวบไซต์ของเรา ที่อาจจะได้อ่านบทความบางส่วนบางเรื่องมาแบบว่า ผ่านหูผ่านตาในหัวข้อเรื่อง “สมดุลแห่งชีวิต” หรือจากการทดลองใช้งาน “ATOM.S001” หรือ “Samong.ME” มาแล้ว แต่อาจจะยังไม่ได้มีเวลาอ่านหนังสือ “สมดุลแห่งชีวิต” อย่างเอาจริงเอาจัง หรือยังไม่เข้าใจประโยชน์ของแอพพลิเคชั่นดังกล่าวนี้ วันนี้ผมขออนุญาตมาเล่าในส่วนของหนังสือให้ฟังโดยสรุป ไม่เชิงจะเป็นการวิจารณ์ หรือ มาโฆษณาขายหนังสืออีกต่อหนึ่ง แต่ถ้าผู้พิมพ์จะตีพิมพ์ใหม่ ผมจะซื้อมาเป็นของตัวเองซักเล่ม และซื้อเป็นของที่ระลึกเนื่องในโอกาสสำคัญ ๆ สำหรับคนที่เรารัก ที่เหมาะสำหรับผู้รับหลายวัยหลายอาชีพ หลายสถานะ (ทำงาน หางาน กำลังสร้างธุรกิจ เป็นต้น) อีกหลาย ๆ เล่ม ส่วนการใช้งานแอพพลิเคชั่นจะเอาไว้ในโอกาสต่อไป (มีอธิบายในระบบออนไลน์แล้ว)
ที่มาที่ผมได้หยิบจับหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน ก็เพราะ
เป็นความดื้อของผมเองมากกว่า ที่พยายามจะไม่เชื่อสิ่งใด โดยที่ไม่ได้ศึกษาค้นคว้าอย่างระเอียด ที่ได้พยายามสอบถามทีมงานพัฒนาของเราว่า
- คุณเอาจินตนาการอะไรจากไหนมาพัฒนาเป็นแอพพลิเคชั่นสมดุลชีวิต คือ จะถามว่ามั่วหรือปล่าว แบบตรง ๆ ก็เกรงใจ (แต่ก็ถามไปแล้ว)
- แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร จะให้ผมนำข้อดีของมันไปบอกต่อ ไปแนะคนอื่นได้อย่างไร มันไม่น่าเห็นสนุกตรงไหน หรือไม่เห็นจะทำเงินแบบเกมส์ หรือแบบ Bitcoin หรือเมื่อไหร่คุณจะทำแอพ Fin Tech หรือแอพตลาด ๆ Solution อะไรก็ได้ให้สมกับการออกโรงโฆษณา Samong มาอย่างยาวนาน
จึงได้รับคำตอบกลับมาว่า คุณไปอ่านที่เวบไซต์ที่บันทึกร่องรอยการพัฒนางานของผมซิ พร้อมกับบอกชื่อหนังสือมา พร้อมสำทับว่า “มันดีมากแต่อ่านเอาเองนะ” และให้ผมไปตามหาซื้อมาอ่าน ผมเองก็ตั้งใจแล้วว่าจะดีหรือไม่ดีอย่างไรก็จะหามาอ่าน ให้จงได้ และผมก็ใช้ความพยามอยู่สองวัน ที่ทุกครั้งที่ไปห้างจะต้องแวะร้านหนังสือ หรือดูจากร้านค้าออนไลน์ ก็พบว่าไม่มีในสตอกเหลือแล้ว เลยคิดไปว่ามันคงไม่ดีหรือไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายอย่างแน่นอนเลย แต่ก็ต้องหาคำตอบกันต่อไป จนต้องหันมาใช้การค้นหาหนังสือในรูปแบบ e-book จากร้าน SE-ED ออนไลน์
รูปร่างหน้าตาของหนังสือก็ประมาณนี้ครับ กอปปี้มาลงไว้แค่นี้ก็เสียวแล้วกับกฏหมายลิขสิทธิ์
ผมไม่รู้จักผู้เขียน ผู้แปลและผู้เรียบเรียงเป็นการส่วนตัวเลย (แต่เพิ่งทักทายไปทางเฟสบุ๊คเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา) และไม่ได้อ่านหนังสือต่าง ๆ มานานพอสมควรแล้ว (สมดุลด้านความรู้ของผมคงจะแย่แน่ ๆ )
ในด้านความประทับใจต่อหนังสือ ผมให้คะแนนเต็ม 10 เลยนะครับ โดยได้ ให้คะแนน 8 คะแนนทันทีที่อ่านบทนำจบ และอีกสองคะแนนในส่วนที่เหลืออีกจำนวนกว่า 300 หน้า (จะให้มากกว่า 2 ไม่ได้เพราะคะแนนเต็ม 10) แต่พออ่านจบก็ต้องบอกว่าขอผมเปลี่ยนใจ ขอเฉลี่ยคะแนนไปแบบเท่าๆ กันให้กับทุก ๆ หน้า เพราะเกือบทุกหน้ามีสาระสำคัญ ๆ ที่เราหยิบเอาไปใช้ได้ทันที
หรือว่าระยะหลังนี่ผมอ่านหนังสือมาน้อย เลยเห็นอะไรก็ดีไปเสียทั้งหมด จึงอย่าได้เชื่อผมทั้งหมดนะครับ ขอแนะนำให้ลองหาอ่านเองเต็ม ๆ อีกครั้งหนึ่ง (หรือจะติดต่อมาให้ผมเล่าเรื่องเพิ่มเติมในด้านต่าง ๆ เป็นตอนๆ ไป
ประวัติของผู้เขียนน่าสนใจครับ ที่ได้แต่งงานสองครั้งสองครา กับภรรยาคนเดิม ที่เลิกรากันไปรอบนึง แต่สามารถฟื้นฟูสัมพันธ์ภาพกลับคืนมา ด้วยวิธีการตามหนังสือที่ตนเขียนขึ้นมาเอง ที่ก่อนหน้านั้นชีวิตคู่ก็พังไม่เป็นท่า ขาดสมดุลเพราะขาดการประเมินและปรับปรุง
ในด้านงานอาชีพ เขาเป็นนักพูดนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ ที่มีความรู้ได้รับประสบการณ์มาจากการศึกษาค้นคว้าตามความชอบความสนใจของตนเอง หลังจากที่ได้เดินทางผิดในธุรกิจมากว่าสองสามปี แต่ด้วยความที่เป็นนักคิดที่ได้วางเป้าหมายไว้บ้าง จึงทำให้ผู้เขียนไม่ถึงกับหมดหนทางและสามารถกลับมาได้ในที่สุด ทำให้เราได้อ่านหนังสือดี ๆ เช่นนี้
หลังจากเขาประสบความสำเร็จ มีทรัพย์สิน มีรถเบนซ์ (ที่รอบนี้มีปัญญาเติมน้ำมัน และค่าซ่อมแซม) ชนิดที่ว่าไม่ได้ซื้อรถหรูมาเพื่อประดับความเท่ห์ในแวดวงธุรกิจ แต่ซื้อมาใช้เพราะมีความพร้อมเพียงพอจริง ๆ ผมเล่าถึงความสำเร็จของผู้เขียนก่อนเช่นนี้เพื่อให้เห็นว่าผู้เขียน ประสบความสำเร็จได้จริง ๆ จากการใช้หลักสมดุลแห่งชีวิตนี้ (แน่นอนที่เราจะไม่เดินตามนักพูดนักเขียนที่ไม่มีความสำเร็จอะไรให้น่าภาคภูมิใจ)
โดยรวม หนังสือ สมดุลแห่งชีวิต นี้เป็นการว่าด้วย การสำรวจ ทำความรู้จัก ประเมินตัวเอง ทำความเข้าใจตัวเอง ว่ามีจุดอ่อนจุดแข็งในด้าน สำคัญๆ ตามที่ได้มีการศึกษาค้นคว้ามาแล้ว มีงานวิชาการรองรับ
ในการใช้ประโยชน์จากหนังสือ ที่ผู้อ่านจะต้องใช้ความซื่อสัตย์กับตนเอง ให้คะแนนในการสำรวจด้านต่าง ๆ ตามความจริง หรือจะให้คะแนนตัวเองน้อยกว่าจริงเล็กน้อยเพื่อให้ได้ผลการปรับปรุงที่เป็นเลิศ และทำการบันทึกลงไปในหนังสือ (หากเป็นส่วนของแอพ ฯ ก็จะมีส่วนของการจัดเก็บ Save ข้อมูลและผลการประเมินพัฒนาการในแต่ละรอบ) แล้วทำการจัดลำดับประเด็นจุดอ่อนตามลำดับความสำคัญ (จัดการกับเรื่องที่ๆได้คะแนนแย่ ๆ คะแนนน้อย ๆ ก่อน) แล้วทำตามคำแนะนำวิธีการแก้ไข ที่ผู้เขียนแนะนำไว้ในแต่ละบทมาให้คู่กัน และทำอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นก็กลับมาทำการประเมินซ้ำในด้านเดิม ๆ อีกหลายครั้งวนๆ ไป พร้อมกับการวิเคราะห์ผลเบื้องต้นด้วยตนเอง
มันประยุกต์ใช้ได้ครับ กับทุกๆ คนที่อ่านออก เขียนได้ คิดได้ (ที่อาจจะต้องแปลข้อความภาษาไทยเชิงปรัชญาฝรั่ง เป็นภาษาในใจคุณเอง ที่มีแทรกไว้ตลอดทั้งเล่ม สำหรับการกระตุกต่อมคิด)
สมดุลแห่งชีวิต จึงเป็นเครื่องมือช่วยให้คุณมีแผนที่ มีกองกำลัง มีฐานสติบัญชาการ มีความพร้อม ไม่ประมาทกับการตัดสินใจดำเนินชีวิต ทั้งชีวิตแบบเดี่ยวๆ ชีวิตคู่ และชีวิตการงาน หรือชีวิตครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบคนอีกหลายคน ที่จะต้องไม่เสี่ยงกับการล้มละลายหรือ การจมอยู่ในกองหนี้ ด้วยเพียงเหตุการใช้ชีวิตที่ไม่สมดุล หรือกระทั่งผู้นำในองค์กรต่าง ๆ ที่สามารถใช้ประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้เช่นกัน เรียกว่าหนังสือเล่มนี้ให้คำแนะนำได้สำหรับทุกคนจริง ๆ
ผมขอยกการประเมินสมดุลในแต่ละด้านออกมาด้านละ เรื่อง
ด้านที่ 1 ด้านสุขภาพ ที่เริ่มสำรวจว่าคุณคิดว่าสุขภาพของคุณเป็น คุณได้ออกกำลังกายมั้ย คุณรับประทานอาหารเป็นอย่างไร คุณพักผ่อนอย่างไร คุณมีโรคประจำตัวอะไรมั้ย
ที่พอคุณได้ให้คะแนนไปและสำนึก(ผิดกับ)ตัว(เอง)ไปเรื่อย ๆ คุณจะพบว่า ก็คุณไม่เคยได้ออกกำลังกาย แถมไม่ได้พักผ่อนเลย แล้วสุขภาพคุณจะเหลืออะไร คุณก็จะคิดได้เอง เยียวยาได้เองเช่นกันทันที แบบคนมีสติสตังต์ในบัด(now) เดี๋ยวนั้น ว่าคุณจะต้องทำอะไรในบัดนี้
ด้านที่ 2 ด้านความสัมพันธ์ในครอบครัว ที่สำรวจว่า คุณมีความสัมพันธ์กับคุณแม่ คุณลูก และภรรยาของคุณแค่ไหน คุณเป็นพ่อที่ดีแค่ไหน อะไรที่คุณควรทำ เช่น การ,มีโอกาสรับประทานอาหารร่วมกัน การปรึกษางาน การปรึกษาปัญหาของลูก ๆ หรือคุณเป็นที่น่ารังเกียจของลูก ๆ แค่ไหน (ที่ผู้เขียนกล่าวว่า ยิ่งเด็กโต เขายิ่งไม่อยากคุยกับคุณเท่าไหร่หรอก) คำพูดดีๆ สั้น ๆ ที่คุณควรพูดอะไรบ้างที่ควรพูด กับคนรัก กับภรรยา เพื่อให้ครอบครัว หรือแม้แต่คุณเองมีกำลังใจในการทำงาน ในการต่อสู้กับชีวิต หรือแม้แต่ความสัมพันธ์กับคนอื่นในอันที่จะเป็นกำลังใจสำหรับชีวิตของคุณ
ด้านที่ 3 ด้านการงาน ที่สำรวจว่า ในที่ทำงานคุณ คุณกับเจ้านายมีความสัมพันธ์อย่างไร (ไม่ใช่เป็นการแนะนำให้ตอแหล) คุณกับเพื่อนร่วมงานเป็นงัย คุณจะได้เข้าใจว่าเจ้านายที่น่าเบื่อเป็นอย่างไร คุณจะอยู่กับเจ้านายที่น่าเบื่อและจะปรับตัวอย่างไร แน่นอนหากการปรับตัวไม่ประสบความสำเร็จ ผู้เขียนก็ไม่ได้รั้งให้คุณอยู่ต่อ แต่ก็ให้คำแนะนำว่าจะตัดสินใจเปลี่ยนงานเมื่อไหร่อย่างไร ให้ดีที่สุด ไปตลอดถึงการมีวิสัยทัศน์ การวางแผนระดับ 90 วัน แผนในระดับราย 1- 5 ปี และเป้าหมายงานชิ้นใหญ่ระดับพลิกชีวิตของคุณคืออะไร ที่คุณจะไม่เป็นเพียงคนวางแผนรายสัปดาห์
ด้านที่ 4 คือด้านการเงิน ที่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ ที่ถัดมาจากความสำคัญในการมีชีวิตอย่างพึงพอใจในแบบที่เป็น ในสิ่งที่มี พอใจกับสิ่งที่หามาได้ ที่การเงินคือ ปัจจัยสำคัญมากที่จะทำให้คุณมีชีวิตต่อไปได้อย่างมั่นคงหรือไม่
ผู้เขียนไม่ได้มั่งเน้นให้คุณต้องรีบร่ำรวย แต่ได้ช่วยให้คุณประเมิน ให้คำแนะนำว่าจะวางแผนด้านการเงินอย่างไร ควรจะมีการเก็บเงินในสัดส่วนอย่างไร เช่นว่า หากคุณมีรายจ่ายประจำเดือนทั้งหมด X บาท คุณก็ควรจะต้องมีเงินในบัญชีใช้จ่ายประจำปกติเป็น 3 เท่า เพื่อให้พร้อมที่จะรองรับการเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้น นี่ไม่นับรวมถึงการมีประกันภัยส่วนบุคคลสำหรับคุณเองและสมาชิกในครอบครัว
แปลว่าหากคุณทำกิจการ คุณก็ควรจะต้องมีเงินสดหมุนเวียนเป็นจำนวน 3 – 4 เท่าของยอดขายรายเดือนสำหรับการรับมือกับ ลูกค้าที่่มีระยะเวลาเครดิตการชำระเงินที่ยาวนาน ไปถึงการรับมือกับการผิดนัดชำระเงิน หรือการแบ่งสรรปันส่วนเงินสำหรับการลงทุนเพื่อต่อยอดรายได้ของคุณ ให้เติบโตอย่างชาญฉลาด หรือคำแนะนำที่ง่ายที่สุดคือ การวางแผนลดค่าใช้จ่ายให้น้อยกว่ารายได้ที่คุณหาได้ เท่านี้ก็เท่ากับเป็นการออมที่ดีที่สุดที่ทำได้ทันที รวมไปถึงการปลูกฝังลูก ๆ ของคุณให้มีความเข้าใจถึงความสำคัญของเงิน หรือกระทั่งการที่จะแนะนำให้รู้จักตนเองไม่ไปเห่อกับกระแสสังคม ตามไลฟ์สไตล์ของใครเขา หากคุณไม่มีกำลังใช้จ่ายจริง
ตอนหนึ่งผู้เขียนแนะนำว่า ลองเอารายได้รวมทั้งปีตั้ง หักด้วยค่าใช้จ่ายรวมทั้งปี แล้วเทียบส่วนที่เหลือกับรายได้ที่ได้มาว่าเป็นสัดส่วนกี่ % หากหากมากว่า 25% ถึอว่าคุณจัดการการเงินได้ดี แต่หากอยู่ระหว่าง 10 – 20% ถือว่าต้องรีบปรับปรุงตัว แต่หาก ไม่ถึง 10% หรือถึงขั้นติดลบ นั่นคือสัญญาณอันตรายของชีวิต
เรียกได้ว่า การทำสมดุลชีวิต หากถัดจากการทำสมดุลเรื่องอื่น ๆ จนอยู่ในระดับที่พึงพอใจแล้ว สิ่งจำเป็นที่ต้องเร่งทำคือเรื่องสมดุลด้านการเงิน หรือในบางคนหากสำรวจแล้ว สมดุลทางการเงินมีคะแนนแย่มาก ก็จำเป็นต้องจัดการเรื่องการเงินก่อนในทันที
เหล่านี้เป็นต้น คือ สมดุลแห่งการมีชีวิตอยู่ เมื่อชีวิตมีความสมดุลตั้งอยู่มั่นคงดีแล้ว คุณก็จะสามารถขยับขยายยกระดับชีวิตของคุณไปตามความชอบด้านการงานอาชีพ ที่ต้องเดินหน้าไปอย่างมีแบบแผนเช่นกัน
ในส่วนของความเกี่ยวข้องของหนังสือกับ แอพพลิเคชั่น ATOM.S001 ซึ่งเป็นรุ่นทดสอบเรื่องสมดุลชีวิต กับ Samong.ME (ซึ่งเป็นแอพฯ รุ่นใหญ่ ที่เป็นมากกว่าสมดุลแห่งชีวิต แต่จะเป็นเหมือนเพื่อนคู่คิด ดูแลชีวิตล้ำสมัย) นั้น เกี่ยวข้องกันในแง่การนำเอาแนวคิดเกือบทั้งหมดของหนังสือเล่มนี้มาประยุกต์ใช้ในฐานะของแหล่งอ้างอิงที่มีการค้นคว้าวิจัยแล้ว จึงจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการใช้งานแอพพลิเคชั่นและได้รับประโยชน์ตามสมควร ตามความสนใจ
โดยการศึกษาทำความเข้าใจจากหนังสือเล่มนี้ ก็จะช่วยให้ท่านสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่น ATOM.S001 สมดุลแห่งชีวิตได้ง่ายขึ้น (แต่อย่างไรก็ตาม ผู้พัฒนาได้ทำการจัดทำคู่มือในรูปแบบ Help Online ไว้ให้พร้อมใช้งาน) นอกจากนี้ โครงสร้างของแอพพลิเคชั่นนี้ยังประกอบขึ้นมาจากประสบการณ์ของทีมงานเอง ที่คลุกคลีอยู่ในวงการพัฒนาซอฟต์แวร์ วงการประกันภัย การประกันชีวิต ที่ต้องสัมผัสกับชีวิตผู้คน กับงานวางแผนชีวิต วางแผนการเงิน จึงมีความรอบรู้เพียงพอในการพัฒนาเป็นกรอบการประเมินได้อย่างถูกต้องแม่นยำ พร้อมการตรวจประเมินจาก CFO ของทีมงาน เราจึงมั่นใจได้ว่าแอพพลิเคชั่นนี้จะช่วยให้คุณเข้าถึงการทำสมดุลแห่งชีวิตได้ง่ายขึ้น
ท่านสามารถติดตามข่าวสารและผลงานของเราได้จากเวบไซต์นี้แล้ว และจากแอพสโตร์ โดยเริ่มต้นจาก Google Play Store และกำลังพัฒนาไปสู่ iOS แอพสโตร์
ขอขอบคุณได้ให้เกียรติติดตามผลงานของเรา //
ไพพัฒน์ 20/4/2017
2240total visits,2visits today