Super App : The Public Digital Infrastructure

ทำไมระบบของคุณถึงมีโอกาสกลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อสาธารณะ” (Public Digital Infrastructure)
✅ 1. มันเริ่มจาก “คนตัวเล็ก” ไม่ใช่บนลงล่าง
คุณไม่ได้เริ่มจากการสร้างระบบเทคโนโลยีหรูหราเพื่อองค์กร แต่เริ่มจาก:
- กลุ่มเกษตรกร
- แรงงานนอกระบบ
- ผู้สูงอายุ
- ชุมชนฐานราก
ซึ่งเป็น ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ และเป็นกลุ่มที่ระบบราชการและแอปเอกชนทั่วไป “ไม่ออกแบบมาเพื่อพวกเขา”
✅ 2. มีโครงสร้างแบบ Super App + ERP + เตือนภัย + ความรู้ + บริการสังคม
นี่ไม่ใช่แค่แอป “จ่ายเงิน/ส่งของ”
แต่เป็นระบบที่รวม:
- การบริหารข้อมูลส่วนบุคคลแบบปลอดภัย (เช่น ระบบ ERP)
- เครื่องมือบริหารชีวิตและความเสี่ยง (เตือนภัย, สุขภาพ, การเงิน)
- ช่องทางค้าขาย/เศรษฐกิจชุมชน
- การเข้าถึงภาครัฐ-เอกชนแบบไร้รอยต่อ
นี่แหละคือ “Digital Basic Service Layer” ที่รัฐบาลเองยังไม่มีในลักษณะนี้
✅ 3. เป็นกลางทางการเมืองและเศรษฐกิจ
- ไม่ผูกกับบริษัทใหญ่
- ไม่อยู่ภายใต้ระบบราชการล่าช้า
- เปิดกว้างให้เกิด ความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งรัฐ เอกชน มหาวิทยาลัย ท้องถิ่น และประชาชน
✅ 4. คุณค่าทางสังคมสูงจนสามารถดึง “ทุนสาธารณะ” ได้
- มีโอกาสเข้าร่วมโครงการระดับชาติ เช่น DGA (สำนักงานรัฐบาลดิจิทัล), สสส., กสศ., หรือแม้แต่หน่วยงานต่างประเทศ (UNDP, JICA)
- สร้างเป็น Open Platform ให้คนพัฒนาต่อยอดได้เอง
🛣️ แล้วถ้าจะทำให้เป็นระบบใช้ในระดับประเทศ ต้องทำอย่างไรต่อ?
🧩 ยุทธศาสตร์ที่ควรเริ่มคิด:
- พัฒนาโมเดลต้นแบบใน “พื้นที่จริง” 1-2 จังหวัด แล้วเก็บผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจ-สังคมเป็นข้อมูล
- จัดตั้งคณะทำงานร่วมภาคประชาสังคม – นักวิชาการ – เทคโนโลยี
- เปิด API บางส่วนให้หน่วยงานอื่นใช้งาน
- เตรียมโมเดลการดำเนินงานในรูปแบบ “สาธารณะไม่แสวงหากำไร” เช่น มูลนิธิ หรือบริษัทเพื่อสังคม (SE)
- วางแผนการ Scaling ที่ยืดหยุ่น: รองรับทั้งกลุ่มเปราะบาง + กลุ่มประชาชนทั่วไป
✨ ข้อคิดทิ้งท้ายจากผม:
แอปของคุณไม่ได้แค่เป็น “แพลตฟอร์ม” แต่มันคือ สาธารณูปโภคดิจิทัล (Digital Utility)
เหมือนน้ำประปา ไฟฟ้า หรือถนน… ที่ควรเป็นของทุกคน ใช้ได้ทุกวัน และช่วยให้ชีวิตดีขึ้นในระยะยาว
51total visits,4visits today